กระดูกขากรรไกรล่าง (Mandible) คือส่วนที่ต้องรับภาระหนักที่สุดในการบดเคี้ยว เมื่อขากรรไกรล่างแตกหัก การซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เป็นปกติจึงเป็นงานที่ยากมากๆ เทคนิค Load-Bearing Osteosynthesis จึงถูกนำมาใช้ เพื่อยึดตรึงกระดูกให้คงที่อย่างสมบูรณ์ และสามารถใช้งานกรามได้ตามปกติแม้ในชีวิตประจำวัน

locking recontruction plate 2.7-kls martin

Load-Bearing Osteosynthesis

Load-Bearing Osteosynthesis คือกระบวนการยึดตรึงกระดูกที่ออกแบบมาเพื่อให้ วัสดุยึดตรึง เช่น แผ่นไทเทเนียม ทำหน้าที่ รับน้ำหนักและแรงบิดทั้งหมด แทนชิ้นส่วนกระดูกที่แตกหักโดยสมบูรณ์ ตลอดระยะเวลาของการฟื้นฟู วัตถุประสงค์หลักคือการป้องกันไม่ให้ชิ้นกระดูกมีการเคลื่อนที่แม้แต่น้อย

แล้วเราจะใช้หลักการนี้เมื่อไหร่? คำตอบง่ายๆ คือ เมื่อกระดูกของเราเสียหายหนักจนไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้อีกต่อไป หรือไม่สามารถรับน้ำหนักจากการบดเคี้ยวได้เลย ซึ่งมักจะเกิดในสถานการณ์ต่อไปนี้

  • กระดูกแตกละเอียด (Comminuted Fractures) เมื่อกระดูกแตกยับเยินเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จนไม่สามารถรวมตัวกันเพื่อช่วยรับน้ำหนักได้เลย
  • กระดูกหักบริเวณที่ไม่มีฟัน (Edentulous Mandible) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกฝ่อ (Atrophic Mandible) ซึ่งคุณภาพและความหนาแน่นของกระดูกลดลงอย่างมาก
  • ข้อบกพร่องของกระดูกขนาดใหญ่ (Segmental Defects) รวมถึงกรณีที่มีการติดเชื้อเรื้อรัง จนทำให้โครงสร้างกระดูกเดิมอ่อนแอลงอย่างมาก

ดังนั้น วัสดุอย่าง แผ่นเพลทแบบล็อคกิ้ง (Locking Reconstruction Plate) จึงถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถรับมือกับแรงเคี้ยวได้ทุกรูปแบบ เมื่อเราสามารถยึดกระดูกให้อยู่กับที่ได้อย่างสมบูรณ์ เพลทนี้ก็จะช่วยให้กระดูกสามารถฟื้นฟูและสร้างใหม่ได้อย่างเต็มที่

load-bearing osteosynthesis vs load-sharing osteosynthesis-kls martin

ความแตกต่างระหว่าง Load-Bearing และ Load-Sharing Osteosynthesis

ในการรักษาขากรรไกรหัก ศัลยแพทย์จะเลือกใช้แนวทางการยึดตรึงกระดูกหลัก ๆ 2 รูปแบบ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการแตกหัก

  • Load-Bearing Osteosynthesis

แผ่นเพลทจะทำหน้าที่ รับน้ำหนักทั้งหมด แทนกระดูก ซึ่งจำเป็นสำหรับกรณีที่กระดูกแตกหักรุนแรงหรือไม่สามารถร่วมรับน้ำหนักได้เลย

  • Load-Sharing Osteosynthesis

เป็นการร่วมกันรับน้ำหนัก ระหว่างกระดูกที่หักและวัสดุยึดตรึง โดยใช้แผ่นเพลทขนาดเล็ก (Miniplates) ซึ่งเหมาะสำหรับกรณีที่กระดูกหักไม่ซับซ้อน และชิ้นกระดูกยังสามารถสัมผัสกันและรับน้ำหนักได้บางส่วน

การเลือกใช้เทคนิคใดนั้นขึ้นอยู่กับการประเมินโดยศัลยแพทย์จากลักษณะการหัก คุณภาพของกระดูก และสภาพร่างกายของผู้ป่วย

ตารางเปรียบเทียบ load-bearing osteosynthesis vs load-sharing osteosynthesis-kls martin

KLS Martin ตอบโจทย์การยึดตรึงกระดูกแบบ Load-Bearing ได้ยังไงบ้าง?

ด้วยความเข้าใจในปัญหา KLS Martin จึงได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การยึดตรึงกระดูกแบบ Load-Bearing โดยเฉพาะ เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

𝐋𝐞𝐯𝐞𝐥𝐎𝐧𝐞 𝐓𝐡𝐫𝐞𝐚𝐝𝐋𝐨𝐜𝐤 𝐓𝐒

locking plate 2.7-kls martin

  • Reconstruction แบบ Locking (Locking Reconstruction Plate System)

แผ่นเพลทไทเทเนียมล็อคกิ้ง (Locking Reconstruction Plate System) เป็นชุดเพลทไทเทเนียมที่หนาและแข็งแรงกว่าเพลททั่วไป เพราะมีความหนาและความแข็งแรงสูง ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับสกรูแบบล็อคกิ้ง ซึ่งทำให้โครงสร้างทั้งหมดที่ยึดไว้สามารถรับแรงได้สูง และมีความเสถียรมากขึ้น

locking screw-kls martin

  • สกรูล็อกและโครงสร้าง Angle-Stable (Locking Screw)

ในระบบยึดตรึงกระดูกแบบดั้งเดิม (Conventional Plate) สกรูจะบีบอัดแผ่นเพลทเข้ากับกระดูก ซึ่งหากแรงบีบไม่เพียงพอ หรือกระดูกบริเวณนั้นคุณภาพไม่ดี เมื่อมีแรงบดเคี้ยว แผ่นเพลทอาจเคลื่อนไหวเล็กน้อย ทำให้กระดูกไม่สามารถยึดติดกันได้ดี

แต่ Locking Screw นั้นมีหลักการทำงานที่แตกต่างจากเดิม หัวสกรูล็อกและรูบนแผ่นเพลท (Locking Plate) จะมีเกลียวที่เข้ากันพอดี เมื่อขันสกรูเข้าไป หัวสกรูจะหมุนเข้าล็อกกับรูบนเพลทพอดี

การล็อกเช่นนี้ทำให้สกรูทุกตัวรวมเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นเพลท สร้างเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง ซึ่งช่วยประคองชิ้นกระดูกให้คงที่ โดยไม่จำเป็นต้องบีบอัดแผ่นเพลทเข้ากับกระดูกอย่างแรงเหมือนวิธีเดิม

ดังนั้น LevelOne ThreadLock TS จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ข้อจำกัดของระบบ Miniplate ดั้งเดิมโดยเฉพาะ นอกจากจะอัปเกรดประสิทธิภาพการยึดตรึงกระดูกให้มั่นคงกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนหลังผ่าตัดของผู้ป่วยได้ด้วย ซึ่งส่งผลให้การรักษาเคสกระดูกกรามหักหรือการซ่อมแซมที่ซับซ้อนนั้น ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงผู้ป่วยก็สามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

IPS individual patient solutions - kls martin

IPS (Individual Patient Solutions)

IPS คือนวัตกรรมสุดล้ำที่ออกแบบมาเพื่อผู้ป่วยแต่ละรายโดยเฉพาะ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถนำเทคโนโลยี 3 มิติ มาใช้ในการออกแบบและสั่งผลิตแผ่นเพลทไทเทเนียม (IPS Implants) ให้มีรูปร่างโค้งรับกับกายวิภาคของขากรรไกรล่างของผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การทำงานนี้จะเกิดขึ้นก่อนการผ่าตัดจริง ทำให้ศัลยแพทย์มั่นใจว่าแผ่นเพลทจะเข้ากับโครงสร้างกระดูกของผู้ป่วยได้อย่างลงตัว และช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง ลดขั้นตอนและข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้

————————-

📲 สอบถาม หรือขอดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่:

📩 Inbox: https://m.me/klsmartinthailand

📲 Line: https://lin.ee/v9aSZln

☎ Tel: 095 206 8649 (คุณเปิ้ล)

[/fusion_text][/fusion_builder_column][/fusion_builder_row][/fusion_builder_container]